เรื่องของเรื่องก็คือเมื่อนานมาแล้วเคยอ่านเจออยู่ว่า “คอมฯ ทำงานไม่ได้เหมาะเอาไว้เล่นเกม คอมฯ เล่นเกมก็ไม่ได้เหมาะเอามาทำงาน การจะใช้ต้องเลือกให้ถูกด้วย” ก็เลยสงสัยมาตั้งแต่ตอนนั้นว่าทำไมมันถึงไม่เหมาะ ทั้งๆ ที่คอมฯ ทั้งสองแบบก็แรงพอๆ กันอยู่แล้ว เมื่อวานนี้ฤกษ์งามยามดีเลยได้โอกาสหาข้อมูล
ปัจจัยหลัก
ระหว่างการหาข้อมูลก็ไปเจอกระทู้หนึ่งในพันดริฟท์ที่มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างน่าสนใจว่า คอมฯ สำหรับทำงานกราฟิกกับคอมฯ ที่ใช้เล่นเกมต่างกันอย่างไร
จากที่อ่านดูแล้วก็พอตีความได้ว่า จุดที่ทำให้มันต่างกันจริงๆ ก็ตรงการ์ดจอนี่เอง ส่วนประกอบหลักอื่นๆ อย่างซีพียู แรม ฮาร์ดดิสก์ ก็มักจะเหมือนกันอยู่แล้ว ดังนั้นเลยขอสรุปว่า “การ์ดจอ” คือกุญแจสำคัญที่จะตอบปัญหาข้อนี้ได้ดีที่สุด เพราะในการทำงานกราฟิก สิ่งจำเป็นคงหนีไม่พ้นซีพียูและการ์ดจอ ยิ่งเป็นงาน 3 มิติด้วยแล้วยิ่งต้องพึ่งการ์ดจอใหญ่เลย
ทำไมถึงไม่เหมาะ
อ่านข้างบนไปแล้วหลายคนคงยังงงอยู่ว่าเกม 3 มิติและงานกราฟิกมันก็ต้องพึ่งการ์ดจอกันทั้งนั้น แล้วทำไมมันถึงยังต่างกันอีกล่ะ ก็ขอยกคำอธิบายจาก Deva’s Natural มาไว้ตรงนี้แล้วกันนะครับ
Nvidia GeForce มีวัตถุประสงค์เพื่อเกมและการเล่นเกมเป็นหลัก (หากเปรียบเป็นรถก็ประหนึ่งรถเก๋ง รถสปอร์ต)
Nvidia Quadro มีวัตถุประสงค์เพื่องานและการทำงานเป็นหลัก (เปรียบได้กับรถกระบะ หรือ รถบรรทุก)
ยกตัวอย่างเช่น หากเราต้องการจะขับรถไปที่ไหนสักที่อย่างเร็วก็ควรจะใช้รถสปอร์ต แต่หากต้องการขนของหนักๆ ก็ควรจะใช้รถบรรทุกมากกว่า ดังนั้นก็เปรียบได้กับการเลือกการ์ดจอที่เหมาะสม หากนำรถบรรทุกมาซิ่งหรือนำรถสปอร์ตมาขนของมันก็คือการใช้งานผิดประเภท ของที่มัน “แรง” ในแบบของมันก็จะใช้ได้ไม่เต็มที่ ผลลัพท์จึงออกมาไม่พึงประสงค์นั่นเอง
อีกจุดหนึ่งที่พอจะอธิบายได้ว่าทำไมมันถึงไม่เหมาะสมก็คือ “ชุดคำสั่ง” ในการประมวลผลของการ์ดจอแต่ละชนิด เรื่องนี้ผมก็ไม่ได้เข้าใจมากเท่าไร แต่พอตีความได้ว่ามันจะมีเหมือน “ภาษา” ของแต่ละโปรแกรมที่รอการประมวลผลจากการ์ดจอแต่ละชนิดอยู่ ทำให้งานต่างๆ มีผลลัพท์และความเร็วออกมาไม่เท่ากันนั่นเอง
ก็หวังว่าโพสท์นี้จะช่วยคลายความสงสัยให้ใครหลายๆ คนที่เข้ามาอ่านได้บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ หากมีข้อมูลตรงไหนผิดพลาดประการใดก็คอมเมนต์ไว้ด้านล่างได้เลยครับ จะได้เป็นประโยชน์กับผู้อ่านคนอื่นๆ รวมทั้งแก้ไขความเข้าใจให้กับผมด้วย 😀
Leave a Reply