เรียนยังไงให้ได้ D
จบไปแล้วหนึ่งเทอมแรกเต็มๆ กับชีวิตมหาลัยในฐานะเด็กไอทีลูกพระจอมฯ ลาดกระบัง เป็นหนึ่งเทอมที่ก็คงเหมือนใครหลายคนที่มีทั้งเฮฮาและเครียดปนเปกันไป เรื่องที่ว่าเรียนอะไรมาบ้างจะไม่เล่าซ้ำแล้วนะครับ 55555 ตามอ่านในโพสท์เก่าๆ กัน แต่สำหรับโพสท์นี้จะมาพูดอะไรนิดหน่อยเกี่ยวกับผลการเรียนในเทอมนี้
สอบกลางภาค
สอบมีสองครั้งในเทอมนี้ (ก็แน่นอนอยู่แล้วไหมล่ะ) สอบกลางภาคก็ผ่านไปพร้อมกับคะแนนค่อนข้างย่อยยับสำหรับใครหลายคน ไม่ว่าจะเป็นคะแนน Math, BFIT, ICS, PSIT แต่ยังดีที่ ITF และอังกฤษพื้นฐานยังช่วยพยุงไว้ได้ ทุกคนก็เห็นก็ทราบสภาพของตัวเองกันไป ผ่านไปสำหรับกลางภาค ถือเป็นการต้อนรับการสอบครั้งแรกอย่างดี…
หลังจากที่เห็นคะแนนในช่วงกลางภาคว่าชักจะไม่ดีซะแล้ว เราก็เลยวางแผนคะแนนในแต่ละวิชาว่าต้องทำให้ได้เท่าไรถึงจะรอดพ้น F สำหรับวิชานั้นๆ (วิชาเดียวที่หวัง A คืออังกฤษ เพราะเป็นวิชาไม้ตายมาตั้งแต่มัธยม) ก็ตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องไม่มีวิชาไหนติด F ให้ได้ และเสี่ยง F แค่ไหนก็จะยังไม่ดรอปไปก่อนเด็ดขาด
เตรียมตัวสำหรับปลายภาค
ในวันที่รู้คะแนนสอบวิชา BFIT (Business Funda….) ก็ค่อนข้างช็อค เพราะได้ 6 คะแนนจากทั้งหมดประมาณ 45 มั้ง จำไม่ได้ คือถ้าเป็นวิชาอื่นที่มันคำนวณล้วนๆ อย่างคณิตนี่จะไม่แปลกใจเลย เพราะคะแนนก็เลวร้ายมาตั้งแต่ ป.4 แล้ว แต่นี่คือมันมีพาร์ทหลังที่เป็นคำนวณ 20 คะแนน ข้างหน้ามันมีอย่างอื่นปนไปด้วยก็น่าจะทำได้บ้างสิ แต่ปรากฏว่าก็ได้ 6 คะแนนนั่นแหละ พอรวมกับคะแนนเข้าห้องก็จะเป็น 11 …
ดังนั้นวิชา BFIT จึงตั้งใจว่าคะแนนรวมปลายภาคต้องได้ใกล้เคียง 50 ที่สุด ถ้าจะให้ปลอดภัยคือต้องสอบให้ได้ 30 คะแนนเต็ม เพราะคะแนนงานในคาบไม่รู้ว่าจะได้เท่าไร ก็ไม่ได้เตรียมการอะไรมากนอกจากอ่านสไลด์ สรุปสไลด์อาจารย์ทุกบท อย่างน้อยมันต้องจำได้บ้าง
วิชา ICS คะแนนกลางภาคได้รวม 18.88 ซึ่งมันเต็ม 50 …. ดูแล้วก็ไม่น่าจะดีแน่นอน เลยตั้งใจว่าปลายภาคจะต้องทำคะแนนให้ได้ 37 คะแนนขึ้นไป ก็จะได้รวม 55/100 อย่างน้อยก็พ้น F ส่วนการเตรียมการก็อ่านหนังสือของวิชานี้ ไฮไลท์ เขียนสรุป ทำความเข้าใจวงจรให้ได้มากที่สุด
วิชา Math ของกลางภาคได้คะแนนเท่าไหร่ก็ไม่รู้ เพราะอาจารย์ไม่ได้ประกาศ แต่คิดว่าสอบไปได้ครึ่งหนึ่ง ก็คงสัก ~25 ดังนั้นก็ยังอันตรายอยู่ดี โชคดีที่มีโปรเจ็กต์กินอัตราส่วนคะแนนค่อนข้างเยอะ และมั่นใจว่าทำโปรเจ็กต์ไว้ดี (คือตั้งใจทำให้ดีที่สุดเพื่อดึงคะแนนขึ้นมานี่แหละ) เลยพอมั่นใจขึ้นมาหน่อยว่ามีโอกาสพ้น F แน่
วิชา PSIT ตอนกลางภาคทำคะแนนไปได้น้อยมากกก จากสองพันกว่าๆ ได้แค่ 200 กว่า (ที่เลขมันเยอะเพราะมันเป็นคะแนนที่เอามาหารอีกที) จำคะแนนแบบหารแล้วไม่ได้ รวมแล้วน่าจะไม่เกิน 25 ก็เป็นวิชาที่เสี่ยงมากอีกวิชาหนึ่งเพราะการสอบเป็นการแก้โจทย์ปัญหาด้วยการเขียนโปรแกรม ดังนั้นถ้าตีโจทย์ไม่ออก เขียนมันออกมาไม่ได้นี่แย่เลย การเตรียมตัวก็พยายามจำคำสั่ง ฟังก์ชันที่จำเป็นให้ได้ แล้วก็ฝึกทำโจทย์เยอะๆ แต่ก็ดีที่ยังมีคะแนนโปรเจ็กต์มาช่วยไว้อีก แต่ไม่รู้คะแนนโปรเจ็กต์เหมือนกันว่าได้เท่าไร
สำหรับวิชา ITF กับอังกฤษพื้นฐานก็ไม่มีอะไรน่าห่วง ITF ตอนกลางภาคได้คะแนนดีแล้ว ก็อ่านสไลด์และจำส่วนที่สำคัญๆ ให้ได้ เพราะปลายภาคเรียนเรื่องเน็ตเวิร์กหนักมาก แต่ดีที่มีคะแนนโปรเจ็กต์ด้วย ส่วนวิชาอังกฤษพื้นฐานก็ลองทำข้อสอบทบทวน อ่านคำศัพท์ที่มีในหนังสือก็โอเคแล้ว
สอบปลายภาค
และแล้ววันสอบปลายภาคก็มาถึง เป็นสัปดาห์รองสุดท้ายของเดือนพฤศจิกายน ถือว่าค่อนข้างเร็ว การสอบก็ผ่านไปได้ด้วย:
- Math: ทำได้มากกว่ากลางภาค มั่นใจเลยว่าต้องได้ราวๆ 40 จาก 55 แน่ๆ (ขอบคุณ Thanathep.T ที่ติวสมการเส้นตรงแบบรวบรัดอย่างเร่งด่วน 30 นาทีก่อนสอบมา ณ ที่นี้ครับ)
- BFIT: มั่นใจว่าทำได้เยอะพอสมควร ข้อเขียนยิ่งมั่นใจ แต่ก็ยังหวั่นๆ ว่าจะห่างจาก 30 คะแนนมากแค่ไหน
- ICS: ขนาดว่าอ่านมาแล้วยังทำได้แค่ข้อเดียว… เพราะที่อ่านมันไม่ออก!!!!! รู้สึกเสี่ยงมากๆ แล้ว แต่ยังพอลุ้นได้จากคะแนนสอบปฏิบัติที่ได้ 20 เต็ม (ขอบคุณ Thanathep.T อีกครั้งที่ช่วยคิดโลจิกกกก)
- PSIT: ทำได้เยอะกว่ากลางภาคเลยมั่นใจขึ้น รู้สึกจะได้ ~5 ข้อจาก 12 ข้อ มีหวังอยู่
- ITF: อ่านไปตรงกับที่ออก เรื่องที่ถามก็เข้าใจอยู่ เลยไม่อะไรมาก
- Eng: ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว
ผลสอบ
สอบเสร็จไม่กี่วันก็มีบางวิชาเริ่มประกาศคะแนนกันแล้ว บางวิชาประกาศวันเดียวกันหรือวันต่อมาเลยก็มี หลังจากผ่านไปเกือบจะ 30 วัน เกรดก็ออกแบบทางการที่เว็บสุดที่รัก reg.kmitl.ac.th ผลเป็นดังนี้
- Math: สอบได้ 36 ใกล้กับที่คิดไว้ว่า 40 อยู่ แต่คะแนนรวมสองภาคไม่รู้
- BFIT: ได้ 20.20/30 !!! บวกคะแนนยิบย่อยเป็น 36.06!! รวมเป็น 47.06/100
- ICS: ไม่รู้คะแนนปลายภาค
- PSIT: ไม่รู้คะแนนนน
- ITF: รวมสองภาคได้ 88.52/100
- Eng: รู้แค่ว่ากลางภาคได้ 53/60 (คะแนนสอบดิบๆ) ปลายภาคคงประมาณนั้น
เกรดที่ได้คืออออ!!!
ดีใจมาก ไม่มี F จริงๆ แต่ GPA 2.41 … คือต่ำที่สุดที่เคยได้มา
เทอมสอง
ด้วยความที่เกรดเทอมนี้ย่อยยับมาก เลยตั้งใจว่าเทอมหน้าจะต้องทำ 3.50 ขึ้นไปให้ได้ หรืออย่างน้อยสุดๆ เอา 3.00 ขึ้นไปก็ยังดี ก็คงต้องมีการทบทวนวิชาที่ไม่แม่นอย่างหนักแน่นอน ต้องจัดเวลาทบทวนดีกว่านี้ ต้องทบทวนแบบจริงจัง อย่างน้อยนอกจากเกรดแล้วมันก็ต้องทำให้รู้เรื่องที่เรียนเพิ่มมากขึ้นแหละ
แล้วอีก 5 เดือนกว่ามาดูกันว่าผลเทอมสองจะเป็นอย่างไร…
Leave a Reply