บันทึกเกณฑ์ทหาร 4 เม.ย. 2562

วันนั้นของปีเวียนมาถึงอีกครั้ง วันที่ชายไทยในวัย 21 ปีขึ้นไป ต้องไปคัดเลือกเพื่อเข้ารับการฝึกวิชาทหาร และในปีนี้ งานที่มักจะเห็นในข่าวทุกปี ก็ถึงคิวของเรา

ออกเดินทาง

เช้าตรู่วันที่ 4 เมษายน 2562 พ่อ แม่ และเรา เดินทางจากบ้านในสมุทรปราการไปยังสถานที่เกณฑ์ทหารของเขตเขตหนึ่งในกรุงเทพมหานคร โดยที่ไม่ได้บอกเหตุผลชัดเจนให้ที่บ้านรู้ ด้วยเกรงว่าจะเกิดความกังวล และก็เหมือนเป็นการถือเคล็ดไปในตัว

เดินทางเพียงไม่ถึงชั่วโมง พวกเราก็ไปถึงสถานที่เป้าหมายตามเวลาที่นัดในหมายเรียก 7 นาฬิกา ณ ตอนนั้นก็มีผู้คนรออยู่มากมายแล้วจนเต็มลาดหน้าวัด

เมื่อเคารพธงชาติ (ตอน 7 โมงนั่นแหละ) เสร็จแล้ว จึงมีการประกาศชี้แจงการดำเนินการต่างๆ อีกสักพัก จากนั้นก็มีตัวแทนจากสองแขวง (ดำเนินการเกณฑ์ที่สถานที่เดียวกัน) ออกไปจับสลาก ว่าจะเรียกแขวงไหนก่อน ปรากฏว่าได้เป็นแขวงที่มีมหาวิทยาลัยที่เรามักเรียกชื่อเป็นชื่อเดียวกับแขวง ดำเนินการตรวจเลือกก่อน จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงประกาศแยกคนที่จะผ่อนผันและคนที่จะสละสิทธิ์ผ่อนผันจากกลุ่มหลัก ส่วนคนที่เหลือก็รอเรียกชื่อเข้าไปตรวจเลือก

สละสิทธิ์ผ่อนผัน

ก่อนหน้านี้ประมาณสี่ห้าเดือน เราไปทำเรื่องผ่อนผันกับสถาบันเผื่อเอาไว้ก่อน แต่อย่างไรก็กะว่าจะเข้าเกณฑ์ในปีนี้เลย ทั้งนี้ก็ทำเพื่อความอุ่นใจไว้ก่อนเผื่อมีปัญหาอะไรก็ยังจะมีการ์ดผ่อนผันให้หงายขึ้นมาใช้ได้

จนถึงวันเกณฑ์ทหาร ทุกอย่างเรียบร้อยดี เราเลยจะไม่ใช้สิทธิ์ผ่อนผัน จึงเข้าไปในส่วนสำหรับดำเนินการสละสิทธิ์ ซึ่งก็มีผู้คนหลายช่วงวัย ตั้งแต่คนที่เกิดปี 2536 ไปจนถึง 2541 เมื่อคะเนด้วยสายตาแล้ว คนที่เกิดปี 2538 จะมีเยอะสุด ส่วนปี 2541 มีเพียงหกคนเห็นจะได้

มองไปอีกฝั่งที่เป็นส่วนการผ่อนผัน เห็นคนจำนวนมาก น่าจะเกิน 200 คน

ช่วงเวลาที่ให้ดำเนินการสละสิทธิ์ผ่อนผัน (และผ่อนผัน) มีไปจนถึงเที่ยงตรง ทำให้แม้ว่าเราจะกรอกเอกสารและยื่นต่อเจ้าหน้าที่กันเสร็จตั้งแต่ชั่วโมงแรกของการเข้าไปรวมตัวแล้ว ก็ยังต้องรอจนถึงเที่ยงตรงอยู่ดี ถึงจะเริ่มการนำเทปกระดาษมาพันข้อมือ ซึ่งเราก็ส่งเทปต่อๆ กันให้ผลัดกันพันข้อมือซ้าย เป็นภาพที่น่ารักไปอีกแบบ

เมื่อพันข้อมือกันเสร็จ เจ้าหน้าที่ก็เรียกไปต่อแถวตามปีเกิด พร้อมให้ขานด้วยเลขประจำตัวที่เขียนไว้ใน สด.35 ก่อนหน้านี้ เพื่อตรวจสอบว่าตรงหรือไม่ และให้พี่ทหารเขียนเลขลงไปบนเทปที่ข้อมือ พร้อมด้วยตัวอักษร

เสร็จดังนั้น พวกเราจึงต่อแถวไปรอเรียกตรวจเลือกต่อ

อ้อ ตรงนี้เราเห็นคนข้างๆ ใช้ Pixel 2XL ด้วยนะ 😂

ตรวจเลือก

เวลาประมาณ 14.30 น. เจ้าหน้าที่ก็ประกาศชื่อเรา ได้เวลาเดินเข้าไปในลานตรวจเลือก ก็จัดการลงทะเบียน พิมพ์ลายนิ้วมือ ลุงทหารถามว่าสูงเท่าไร เลยตอบไปว่าน่าจะ 165 เขาก็บอกว่าถ้างั้นน่าจะไม่ได้ พร้อมยิ้มๆ ให้

ตรงจุดลงทะเบียนนี่เจ้าหน้าที่ก็จะใช้เอกสารใบใหม่ ที่เป็นว่าที่ผลลัพธ์การตรวจเลือก เอกสารใบนี้จะส่งเป็นทอดๆ จากจุดลงทะเบียน จุดตรวจร่างกาย จุดวัดขนาด เป็นต้น

เราก็ไปนั่งรอตรวจร่างกายต่อ ในการตรวจร่างกาย ก็จพมีนายแพทย์ทหารตรวจสอบการกางแขน การก้ม การนั่งยองๆ และถ้าใครมีโรคประจำตัว มีหลักฐานการรักษาต่างๆ ก็สามารถแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้ ตรงจุดนี้หากใครร่างใหญ่ก็จะมีการชั่งน้ำหนักด้วย

ต่อไปคือการวัดขนาดตัว ซึ่งเราวัดรอบตัวได้ 72–75 ซม. และวัดส่วนสูงได้ 162 ซม. เจ้าหน้าที่ทหารจึงประกาศว่าไม่ได้ขนาด นั่นก็เพราะขนาดตัวต้องได้ 76 ซม. ขึ้นไป ทีนี้พี่ทหารก็พาไปนั่งในแถว ไม่ได้ขนาด เพื่อรอรับเอกสาร ถือเป็นคนจำพวกที่ไม่ต้องจับใบดำใบแดงต่อแล้ว

เมื่อเจ้าหน้าที่ประกาศเรียกว่าบุคคลไม่ได้ขนาดก็รู้สึกแปลกๆ แต่โอเค ยอม ต่อมาก็มีการมอบหลักฐานการเกณฑ์ทหารให้ พร้อมให้หันไปยังกล้องถ่ายภาพด้านขวา (คาดว่าเป็น Sony Alpha 5xxx) เมื่อบันทึกภาพ

โอเค ใกล้จะเสร็จละ สถานีสุดท้ายคือการตรวจปัสสาวะ เจ้าหน้าที่ก็จะให้กระปุกพลาสติกขนาดเล็ก แล้วให้ไปปัสสาวะใส่กระปุกนั้นเพื่อนำมาหยดใส่แถบวัดยาบ้าและกัญชา ซึ่งมันเป็นอะไรที่ลุ้นมากแม้จะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับสารเสพติดก็ตาม สักพักเส้นสองเส้นบนแถบวัดทั้งสองก็ปรากฏ ความหมายว่าไม่พบสารเสพติด

เจ้าหน้าที่บันทึกผลลงใบหลักฐาน เป็นอันเสร็จกิจ

ใช่ครับ เสร็จแล้ววววว!!!

เจ้าหน้าที่

เจ้าหน้าที่ดำเนินการเกณฑ์ทหารจะมีทั้งทหาร และเจ้าหน้าที่ในชุดดำและชุดสีกากีต่างๆ ซึ่งเราก็มองไม่ออกยกเว้นชุดทหารนั่นแหละ การดำเนินการเป็นไปได้ด้วยดี เจ้าหน้าที่บริการดีและเป็นมิตร ตอบคำถามและช่วยเหลืออย่างยิ้มแย้ม ส่วนเรื่องความช้าก็เข้าใจได้เพราะคนมีจำนวนเยอะจริงๆ

การเตรียมการ

ขอเล่าเรื่องก่อนจะถึงวันเกณฑ์ทหารด้วยละกัน เราก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ รอวันเกณฑ์นะ เพราะไม่อยากไปเสี่ยงจับใบดำใบแดง เลยอยากลดความเสี่ยงให้มากที่สุด

หนึ่งปีก่อนหน้านี้เราสั่ง TicWatch E มา ทั้งเพื่อใช้แทน Sony SmartWatch 2 อันเดิมและเพื่อช่วยในการออกกำลังกาย ในช่วงเวลาหนึ่งปีมานี้ เราขี่จักรยานแทบทุกวัน ประมาณวันละ 30–45 นาที ซึ่งก็ได้นาฬิกามาช่วยคำนวณการเผาผลาญให้แม่นยำขึ้นนี่แหละ พอเห็นตัวเลขแล้วมันจะมีแรงบันดาลใจในการทำต่อเรื่อยๆ

ต่อมาในช่วงหกเดือนก่อนถึงเวลา ก็ลดอาหารที่มีแคลอรี่สูง รวมทั้งลดปริมาณการบริโภคไปด้วย และในช่วงสามเดือนสุดท้ายก็ลดน้ำตาล ลดชานม 😭

สุดท้ายน้ำหนักจึงลดจากราวๆ 48 มาเหลือ 46 … อ่าใช่ สองกิโล… แต่เอาเป็นว่ารอบอกก็ลดจาก 75 มา 72–73 ได้ละกัน ถือว่าบรรลุเป้าหมาย

จบบันทึกจ้า

📮 Have new posts emailed to you


Posted in

by

Tags:

Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.